ตำรวจจราจร ร่วมมือกับ เจ้าหน้าที่เทศกิจ เอาผิดผู้ขับขี่รถบนทางเท้า โดยจับปรับสูงสุด 3 พันบาท เพื่อให้เข็ดหลาบ และ ผู้แจ้งเบาะแส จะได้ค่าส่วนแบ่ง จากค่าปรับอีก 50 เปอร์เซ็นต์
พลตำรวจตรี นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บังคับการตำรวจจราจร เปิดเผยถึงกรณี รถจักรยานยนต์ย้อนศร ขับขี่ขึ้นไปบนทางเท้า ที่ประชาชนใช้ในการเดินนั้น ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณที่มีรถไฟฟ้า และ รถไฟใต้ดิน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ การกระทำดังกล่าว ไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่ใช้ทางเท้าอย่างถูกต้อง
จึงสั่งการตำรวจในสังกัด ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เทศกิจ กทม. ขยายจุดตรวจจับรถจักรยานยนต์ทำผิดกฎจราจรจากเดิม 180 เป็น 230 จุด เน้นการขับขี่บนทางเท้า และจะบังคับใช้กฎหมายแบบ 2 ต่อ เนื่องจากโทษปรับของตำรวจอาจจะยังไม่สูงมาก จึงร่วมมือกับเทศกิจ ใช้ พ.ร.บ. การรักษาความสะอาดในพื้นที่สาธารณะร่วมด้วย ถือเป็นอำนาจที่เจ้าหน้าที่เทศกิจสามารถทำได้ โดย พ.ร.บ.การรักษาความสะอาดของ กทม.กำหนดให้ปรับได้ตั้งแต่ 500 – 5,000 บาท และนโยบาย ผู้ว่าฯกทม.ล่าสุด ให้เปรียบเทียบปรับในอัตราสูงถึง 3,000 บาท เพื่อให้เข็ดหลาบ เพราะดูจากสถิติย้อนหลังตั้งแต่เดือน ตุลาคม-เมษายนที่ผ่านมา พบรถจักรยานยนต์ทำผิดกฎจราจรไม่ต่ำ 9,000 ราย ในจำนวนนี้ เป็นความผิดเกี่ยวกับการขับขี่ย้อนศรบนทางเท้ากว่า 4,000 ราย รวมเงินค่าปรับกว่า 3 ล้านบาท
พลตำรวจตรี นิธิธร บอกถึงกรณีโซเชียลมีเดีย ตำหนิ ตำรวจ ปรับหนัก เอาเงินเป็นตัวตั้ง อาจเป็นช่องทางหาเงินจากค่าปรับนั้น ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้หาช่องทางหากิน กรณีปราบปราม ตาม พ.ร.บ.การรักษาความสะอาดของ กทม. เงินค่าปรับทั้งหมดเข้า กทม. และผู้แจ้งเบาะแส จะได้ส่วนแบ่งค่าปรับ อีก 50 เปอร์เซ็นต์
เพราะเป็นผู้สอดส่องดูแลความปลอดภัยบนนถนนท้อง ถือเป็นมาตราการที่ดี ในการลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นจะความมักง่ายของรถจักรยานยนต์ ส่วนตำรวจ จะได้เปอร์เซ็นค่าปรับก็ต่อเมื่อจับกุมตาม พ.ร.บ.จราจรของตำรวจเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : thaich8